ศึกดาร์บี้ ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตันโอกาสทองทุบ “หงส์แดง”
หลังจากที่ ลิเวอร์พูล เรียกฟอร์มเก่งในเกมไล่ทุบ แอร์เบ ไลป์ซิก ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้แล้ว
ภารกิจต่อไปก็คือการรับมือ เอฟเวอร์ตัน ที่สนามแอนฟิลด์ ในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ แม้ฟอร์มในเกมฟุตบอลถ้วยใบโตยุโรปของ “หงส์แดง” จะเด็ดสะระตี่ก็ตาม แต่ผลงานในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังกระท่อนกระแท่น และในเวลานี้ก็ร่วงไปอยู่อันดับ 6 ในตารางลีก ซึ่งหากยังเรียกฟอร์มเก่งกลับมาไม่ได้โอกาสที่จะหลุดท็อปโฟร์หลังจบซีซั่นนี้มีค่อนข้างสูง
ฉะนั้นในเกมรับมือ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ถือเป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะเรียกความมั่นใจกลับคืนมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านที่แสนน่ารัก เพราะช่วงเวลานี้ถือเป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะลบล้างอาถรรพ์ในการเยือนแอนฟิลด์โดยไร้คำว่าชนะมานานตั้งแต่ปี 1999 1. เฮนโด้-คาบัค เริ่มเข้าขากันมากขึ้น เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ฟาบินโญ่ ยังไม่หายเจ็บ นั่นหมายความว่าคู่เซนเตอร์แบ็กยังคงเป็นหน้าที่ของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ โอซาน คาบัค ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนทั้งสองคนจะเริ่มปรับตัวเข้ากันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว คุณภาพของเฮนเดอร์สัน คงไม่ต้องพูดเชิดชูกันมากนัก เพราะกัปตัน “เฮนโด้” แสดงให้เห็นมาแล้วหลายแมตช์ ขณะที่ คาบัค แม้จะเปิดตัวไม่น่าอภิรมย์โดยเฉพาะความผิดพลาดในการสื่อสารกับ อลิสซง เบ็คเกอร์ ในเกมที่แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้
แต่ตอนนี้นักเตะค่อยๆ ปรับตัวได้ดีขึ้น เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งทีมชาติตุรกี สามารถแก้ตัวได้ทันที
ในเกมที่ช่วยทีมชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก โดยเขามีสถิติชนะการเข้าสกัดทั้ง 4 ครั้งในเกมมากสุดในนักเตะที่อยู่ในสนาม จนช่วยให้ “หงส์แดง” เก็บคลีนชีตได้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้น คาบัค ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการเข้าปะทะ รวมทั้งการเล่นที่มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเขากับ เฮนเดอร์สัน ประสานงานกันได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงเรื่องการสื่อสารกับ อลิสซง ก็พัฒนาขึ้น
สำหรับเกมกับ เอฟเวอร์ตันคอนข้างจะมีความกดดันมากกว่าหลายเท่าและยังเป็นเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์ครั้งแรกของเขาซะด้วย แต่การที่ คาบัค มี “เฮนโด้”อยู่ข้างๆ น่าจะช่วยทำให้เขาเล่นด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น 2.เกมรุกกลับมามีความมั่นใจหลังเกมฟุตบอลถ้วยยุโรปหลังจากที่เกมรุกมีฟอร์มอัตคัดเหลือเกินในเกมพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสลามมาจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ แต่ในแมตช์กับไลป์ซิก ถือเป็นฤกษ์งามยามดีสำหรับเกมบุกของ “หงส์แดง”ที่กลับมาเล่นได้อย่างดุดันอีกครั้งซาดิโอมาเน่,โมฮาเหม็ดซาลาห์และโรแบร์โต้ฟีร์มีโน่เล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติในแมตช์ดังกล่าวพวกเขาโชว์ความคล่องแคล่วและการประสานงานได้อย่างลงตัวเหมือนที่เหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” คุ้นเคยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาณะที่แดนกลางติอาโก้อัลกันตาร่าเริ่มที่จะปรับตัวกับบทบาทผู้นำในแผงมิดฟิลด์ได้ดีขึ้น มีการจ่ายบอลเร็ว และเล่นเกมรับได้น่าพอใจ
ส่วน เคอร์ติส โจนส์ กับ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ก็ถือว่าคืนฟอร์มเก่งหลังเกมแพ้ เลสเตอร์ เช่นเดียวกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมเกมริมเส้นได้เด็ดสะระตี่ เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ฉะนั้น คล็อปป์ ต้องกระตุ้นให้ลูกทีมรักษาโมเมนตัมแบบนี้เอาไว้เมื่อต้องกลับมาเล่นเกมลีก โดยเฉพาะการรับมือ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งได้ชื่อว่ามีเกมรับที่แข็งแกร่ง และหากพวกเขาปราบ “เพื่อนบ้านที่น่ารัก” ได้ก็จะยิ่งเป็นการเรียกความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง
ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ bennettbaykayaking.com